โรนัลโด้ข้องใจ ศึกเอลกลาซิโก ในวันเสาร์นี้
ซึ่งทางโรนัลโด้ ข้องใจ ในศึกเอล กลาซิโก ที่จักมาฟาดแข้งกันในวันเสาร์นี้ เหตุเพราะที่มีเวลาพักฟื้นร่างกายไม่พอ เพราะมีเวลาแค่ 2 วันที่จักพักร่างกาย
ภายหลังที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เป็นดาวเตะจอมถล่มประตูชาวโปรตุกีส ของ หมู่เรอัล มาดริด ยอดฝ่ายแห่งศึกลา ลีกา สเปน เปิดตีแผ่ยอมรับไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง กับ วันแข่งของศึกเอล กลาซิโก กับ กรุ๊ปบาร์เซโลน่า เหล่าคู่ปรับตลอดกาลที่ต้องมาเตะในวันเสาร์ เพราะว่าว่าทำให้เขาพักฟื้นร่างกายได้ไม่เต็มที่
เพราะที่ โรนัลโด้ เพิ่งตัดผ่านการลงสนามในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ กลุ่มราชันชุดขาว บุกไปชนะ ลิเวอร์พูล 3 - 0 ครั้งวันพุธที่เปลี่ยนมา ซึ่งหมายความว่าเขาจักได้พักแทบแค่ 2 วันเท่านั้น ก่อนที่จะลงฟาดแข้งในเกมสำคัญที่จักเปิดรังซานติอาโก้ เบร์นาเบว ต้อนรับการมาเยือนของ เหล่าบาร์ซ่า ทำให้ตัวของ CR7 นั้นหัวเสียกับเรื่องนี้พอสมควรเลยทีเดียว
พร้อมกับโรนัลโด้ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกว่า นักบอลระดับโลกต่างรู้ดีว่า การพัก 2 วันนั้นแตกต่างกับ 3 วันเพราะว่าสิ้นเชิง แต่นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัว เพราะว่าว่าเราต้องลงไปทำผลงานให้ดีเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้ แต่พวกเขาควรให้ความใส่ใจกับรายละเอียดเล็กน้อย ก็เพราะว่าการได้พักเพิ่มอีก 24 ชั่วโมงนั้นถือว่าเยอะมาก ผมไม่เข้าใจยิ่งๆ ว่าทำไมเกม เอล กลาซิโก ต้องมาเล่นกันในวันเสาร์
ซึ่งเหตุด้วย โรนัลโด้ ในวัย 29 ปี กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรงสุดขีด โดยเขายิง ประตูไปแล้ว 15 ประตู ในศึกลา ลีกา จากการลงสนาม 7 นัด ส่วนถ้ารวมทุกรายการนั้น ตังของดาวเตะจอมฟิตตะบันไปแล้วทั้งสิ้น 20 ประตู ด้วยกัน
คณะสเปอร์ ลงแข่ง 10 คนและถล่ม คณะแอสเตราส + คลิป
ในศึกฟุตบอล ยูโรป้า ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 ครั้งวันที่ 23 ตุลาคมที่ข้ามมา กลุ่ม C ทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบกับ กรุ๊ปแอสเตราส ตริโปลิส พวกจากประเทศกรีซ
ซึ่งริเริ่มเกมมาได้พ่าง 13 นาที พวกสเปอร์สได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง เอเตียน กาปู จ่ายให้ แฮร์รี่ เคน ยิงเสียบเสาเข้าไป ทำให้คณะสเปอร์ส ออกนำ 1-0 จากนั้น
ในนาทีที่ 29 ฝั่งเจ้าบ้าน ขึ้นนำ 2-0 ครั้นเมื่อ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ได้จ่ายบอลมาให้ เอริค ลาเมลา ยิงไขว้เข้าไปอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก กรุ๊ปสเปอร์ส นำ 2-0
ตั้งต้นครึ่งหลัง นาทีที่ 51 พวกสเปอร์นำห่างไป 3-0 ซึ่งแฮร์รี่ เคน จ่ายบอลให้ เอริค ลาเมลา ลากเข้าไปยิงด้วยขวา แต่ไปติดแผงกองหลัง แล้วบอลลอยไปเข้าทางลาเมลาอีกครั้ง ก่อนเจ้าตัวจะวอลเลย์ด้วยซ้ายเข้าไป
ในนาทีที่ 75 หมู่สเปอร์มาได้ประตูที่ 4 มูซ่า เดมเบาเล่ รับบอลจาก เอริค ลาเมลา ก่อนจะลากเข้าไปยิง แต่ไปติดเซฟ โทมัส โคซิชกี้ ผู้รักษาประตูแอสเตราส แต่บอลไปเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ที่วิ่งเข้ามาซ้ำให้สเปอร์สนำห่าง 4-0
และนาทีที่ 81 ซึ่ง แฮรี่ เคน ก็ทำแฮตทริกได้สำเร็จ หลังโหม่งพังประตูที่ 5 ให้หมู่สเปอร์ส นำห่าง ทีมแอสเตราส 5 - 0
ต่อมาในนาทีที่ 87 พวกสเปอร์ต้องมาเหเลื่องผู้เล่น 10 คน เท่าที่ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูของเจ้าถิ่น ออกมาฟาล์วตัดเกมใส่ผู้เล่นของแอสเตราส หน้าเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินไล่โยริสออกจากสนามไปทันที พร้อมกับให้ แฮรี่ เคน ไปยืนเป็นผู้รักษาประตูชั่วคราวในช่วงเวลาที่เหโจษ
ซึ่งก่อนหมดเวลา 1 นาที คณะแอสเตราสก็ได้มายิงคืน 1 ประตู จากลูกฟรีคิกของ เจโรนิโม่ บาร์ราเลส ที่ยิงไปตรงตัว แฮรี่ เคน แต่ว่าเจ้าตัวกลับรับบอลหลุดเข้าประตูไป
ทำใหจบเกม เหล่าสเปอร์ส เอาชนะ คณะแอสเตราส ไปอย่างท่วมท้น 5-1
กลุ่มทอฟฟี่สีน้ำเงิน บุกเจ๊า พวกลีลล์ 0 - 0 ทำให้รั้งฝูงศึกยูโรปา
พวกทอฟฟี่สีน้ำเงิน ได้เก็บเพิ่มได้อีก 1 แต้ม หลังโปรแกรมบอลบุกไปเสมอกับ เหล่าตราหมา ถึงถิ่นแบบไร้สกอร์ 0-0 ส่งผลให้ยังคงรั้งจ่าฝูงกลุ่ม H ในศึกยูโรปา ลีก ตราบ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 กลุ่ม H แข่งขันคืนวันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2557 เป็นการพบกันระหว่าง กรุ๊ปตราหมา ลีลล์ หมู่ดังแห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส เปิดสนามกร็องด์ สต๊าด ลีลล์ รับการมาเยือนของ หมู่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน คณะดังจาก ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซึ่งโหมโรงเกมมา ยังไม่มีทีมใดเปิดเกมบุกเต็มตัว เล่นหยั่งเชิงกันอยู่นาน
จนถึงนาทีที่ 15 มูฮาเหม็ด เบซิช กองกลาง หมู่ทอฟฟี่ ได้รับใบเหโจษจันงคนแรก หลังเจตนาเปิดปุ่มใส่ เซบาสเตียง กอร์กเชีย
ในนาทีที่ 18 ฝ่ายเอฟเวอร์ตัน ได้เสียว ในจังหวะที่ สตีเว่น พีนาร์ ทำชิ่งต่อให้ ซามูเอล เอโต้ ได้แตะบอลหลุดเข้าเขตโทษ แต่จังหวะที่จักยิงไปสะดุดขาตัวเอง บอลปลิ้นไปเข้ามือ เอ็นเยียม่า
ในนาทีที่ 26 ก็มีโอกาสลุ้นครั้งแรกของ ฝ่ายลีลล์ จากจังหวะที่ อิดริสซ่า กูอาย รับบอลต่อจาก ฟลอร็องต์ บัลมงต์ ก่อนพลิกตัวยิงด้วยขวาเต็มข้อหน้าเขตโทษ บอลพุ่งไปชนเสาเหลี่ยมนอกออกหลัง
นาทีที่ 33 เกมบุกของ กรุ๊ปเอฟเวอร์ตัน แนวรับ ลีลล์ ได้โหม่งสกัดไม่ดีมาเข้าทาง ไอเดน แม็คเกียดี้ กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลพุ่งไปเข้ามือ เอ็นเยียม่า
ต่อมานาทีที่ 39 ทางฝั่ง คณะลีลล์ ก็ได้พยายามบุกตอบโต้ พร้อมด้วยมีโอกาสลุ้น รอนนี่ โรเดอแล็ง ลองส่องไกลจากหน้าเขตโทษ บอลเข้าไปตรงตัว ทิม ฮาเวิร์ด
พร้อมทั้งหมดครึ่งแรก กรุ๊ปลีลล์ กับ กลุ่มเอฟเวอร์ตัน ยังเสมอกันอยู่ 0 - 0
เริ่มต้นเกมส์มาในครึ่งหลัง ก็ยังไม่มีกรุ๊ปใดเปลี่ยนตัวผู้เล่น เพราะว่าเริ่มมานาทีที่ 53 กลุ่มลีลล์ ได้หาจังหวะบุกทักทายได้ก่อน ดิว็อค โอริกี้ ได้ส่องไกล 25 หลาหน้าเขตโทษ ผลบอลพุ่งหลุดข้ามคาน
ในนาทีที่ 56 ฝ่ายเอฟเวอร์ตัน ได้ตอบโต้ กระทั่งมาได้ปั่นฟรีคิกระยะหวังผล เยื้องมาทางฝั่งซ้าย ซามูเอล เอโต้ รับอาสาปั่นด้วยขวา บอลโค้งเข้ากรอบ แต่ เอ็นเยียม่า ดักทางรับไว้ได้
นาทีที่ 64 คณะทอฟฟี่ ได้ส่งตัว โรเมลู ลูกากู ลงมาล่าตาข่าย โดยได้ถอดตัว สตีเว่น พีนาร์ ออก
พร้อมด้วยนาทีที่ 64 เช่นกัน โอกาสที่น่าจักเป็นประตูขึ้นนำของ ีมเอฟเวอร์ตัน จากจังหวะที่ ลูกากู จ่ายบอลทะลุช่องให้ แม็คเกียดี้ ได้หลุดเข้าไปตวัดยิงด้วยซ้าย บอลแฉลบขา เอ็นเยียม่า ก่อนที่ มาร์โก บาซ่า จักเตะเคลียร์ทิ้งออกหลัง
นาทีที่ 82 กลุ่มเอฟเวอร์ตัน ได้ส่ง คริสเตียน อัตซู ลงมาเติมเกมรุกอีกคน แทนที่ ไอเดน แม็คเกียดี้
พร้อมกับในนาทีที่ 89 ช่วงท้ายเกม กรุ๊ปเอฟเวอร์ตัน ก็ได้มีโอกาสได้ประตูชัยจากจังหวะสวนกลับ มูฮาเหม็ด เบซิช ถ่ายบอลออกฝั่งซ้ายให้ เอโต้ แตะบอลเข้าใน ก่อนปั่นด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งหลุดเสาสองไปนิดเดียว
ทำให้จบเกม 90 นาที ฝ่ายลีลล์ ได้เปิดบ้านเสมอกับ เหล่าเอฟเวอร์ตัน สุดจืด 0-0 แบ่งไปเหล่าละ 1 คะแนน ทำให้ กลุ่มทอฟฟี่ ยังรั้งจ่าฝูง มีเพิ่มเป็น 5 คะแนน ส่วนเหล่า ตราหมา นั้นมี 2 คะแนน อยู่อันดับ 3 เท่าเดิม
ระเบียนผู้เล่น กลุ่มลีลล์
- วินเซนต์ เอ็นเยียม่า
- ฟร้องค์ เบเรีย
- ซิม่อน เคียร์
- มาร์โก บาซ่า
- ป๊าป เอ็นดิอาย ซูอาเร่
- อิดริสซ่า กูอาย
- ริโอ มาวูบา เปลี่ยนตัว มาร์กแว็ง มาร์กแต็ง ลงมานาทีที่ 86
- ฟลอร็องต์ บัลมงต์
- เซบาสเตียง กอร์กเชีย
- ดิว็อค โอริกี้
- รอนนี่ โรเดอแล็ง เปลี่ยนตัว ไรอัน เมนเดส ลงมานาทีที่ 73
บัญชีชื่อสำรองที่ไม่ได้ใช้
- สตีฟ เอลาน่า
- ดาวิด โรเซห์นาล
- ฌิบริล ซิดิเบ้
- ไมเคิ่ล เฟรย์
- โนแลน รูซ์
ระเบียนผู้เล่น เหล่าเอฟเวอร์ตัน
- ทิม ฮาเวิร์ด
- โทนี่ ฮิบเบิร์ต
- ฟิล จากีลก้า
- ซิลแว็ง ดิสแต็ง
- เลห์ตัน เบนส์
- แกเร็ธ แบร์รี่
- มูฮาเหม็ด เบซิช
- ไอเดน แม็คเกียดี้ เปลี่ยนตัว คริสเตียน อัตซู ลงมานาทีที่ 82
- รอสส์ บาร์คลี่ย์ เปลี่ยนตัว เจมส์ แม็คคาร์ธี่ ลงมานาทีที่ 90+3
- สตีเว่น พีนาร์ เปลี่ยนตัว โรเมลู ลูกากู ลงมานาทีที่ 64
- ซามูเอล เอโต้
สารบาญสำรองไม่ได้ใช้
- โจเอล โรเบลส
- อันโตลิน อัลการาซ
- เชมัส โคลแมน
- ดาร์รอน กิ๊บสัน
กรรมการผู้ตัดสิน : ฮอร์เก้ ซูซ่า ประเทศโปรตุเกส
โดยท่านเก่งติดตามชม วิเคราะห์บอล เพิ่มเติมได้ที่เลยที่นี่ ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น